ซีบัคธอร์น ผลไม้มีวิตามินซีสูงที่สุดใน TOP 10

3837 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ซีบัคธอร์น ผลไม้มีวิตามินซีสูงที่สุดใน TOP 10

ทำความรู้จักกับวิตามินซี
วิตามินซี หรือชื่อเต็มว่ากรดแอสคอบิค (Ascobic Acid) เป็นวิตามินที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์ได้เอง แต่มีความสำคัญอย่างมากกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ด้วยความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายได้รับจากกระบวนการสันดาปของร่างกายและจากมลพิษต่างๆ ที่จะส่งผลให้เซลล์ในร่างกายเสื่อมสภาพ ชะลอริ้วรอยและความแก่ชรา ส่งผลให้มีผิวพรรณที่มีสุขภาพดีขึ้นได้
ทำไมเราถึงต้องการวิตามินซี
นอกจากประโยชน์ในเรื่องของผิวแล้ว วิตามินซียังมีส่วนช่วยในการ ป้องกันหวัด เนื่องจากคุณสมบัติที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยในเรื่องของการป้องกันโรคอื่นๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคเลือดออกตามไรฟัน โรคที่มาจากการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย เส้นเลือดอุดตันในหลอดลม เป็นต้น  

แหล่งวิตามินซีใกล้ตัวที่เราสามารถพบได้ตามผักและผลไม้โดยหาซื้อง่ายและมีอยู่ทั่วไปในประเทศไทยที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าผักและผลไม้บางชนิดก็มีวิตามินซีอยู่ในปริมาณที่ร่างกายต้องการใช้งานได้

อันดับที่ 1 ซีบัคธอร์น 
วิตามินซี 400 มิลลิกรัม/100 กรัม

ราชาผลไม้ในตระกูลเบอรี่ ที่มีวิตามินซีสูงกว่าผลไม้ทุกชนิด

เป็นผลไม้หนึ่งเดียวที่ทีมวิจัยพบว่า

มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ถึง 428 ประการ

มากกว่าสมุนไพรชนิดอื่นๆและไม่สามารถเทียบได้

อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการจำนวนมาก

  • วิตามินซี สูงกว่าผลไม้ทุกชนิดและมากกว่าส้มถึง 15 เท่า
  • วิตามิน E ที่มีปริมาณเข้มขันรู้จักกันในนาม วิตามินต่อต้าน 
  • นอกจากนั้นยังอุดมไปด้วย วิตามิน A B C D และ K
  • มีโอเมก้า 3 6 7 9 จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะโอเมก้า 7 ที่หายากในอาหารและผลไม้ต่างๆ
  • อุดมไปด้วย SOD มีประสิทธิภาพในการทำให้อนุมูลอิสระเกิดความเป็นกลางอย่างรวดเร็ว ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานการเกิดเนื้องอก  อันเป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็ง โรคกระดูก โรคเกี่ยวกับสมอง ผิวหนังเสื่อมที่เป็นผลให้แก่ก่อนวัยอันควร
  • แคโรทีน สูงกว่าอาหารชนิดอื่นๆ
  • ฟลาโวนอยด์ เลซิติน  ฟีนอล   

ลดคลอเลสตรอรอลในโลหิต ป้องกันภาวะไขมันในเลือดสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

บรรเทาอาการปวดแน่นหน้าอกได้ถึง 94%

โรคแผลในกระเพาะและลำไส้ มีประสิทธิภาพในการรักษาผิวหนังที่ถูกไฟลวก

*********************************************************

อันดับที่ 2 มะขามป้อม

วิตามินซี 276 มิลลิกรัม/100 กรัม

มะขามป้อมหรือมะขามป้อมอินเดีย ผลไม้ลูกเล็กๆแต่กลายเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง

แค่กินมะขามป้อม 1 ลูก ก็ได้รับวิตามินซีเพียงพอร่างกายในหนึ่งวันแล้ว

สรรพคุณ

ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดัน บรรเทาอาการปวดตามข้อ

ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยยับยั้งความเป็นพิษต่อตับ แก้ไอขับเสมหะ

แก้โรคลักปิดลักเปิด ริดสีดวงทวาร เป็นยาระบายอย่างดี

************************************************************

อันดับที่ 3 ฝรั่ง

วิตามินซี 160 มิลลิกรัม/100 กรัม

การกินฝรั่งไม่ควรปอกเปลือกเพราะมีวิตามินและแร่ธาตุอยู่ แค่กินฝรั่งวันละ 1 ลูก

ก็ช่วยให้ห่างไกลโรคได้มากมาย และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงมากจึงช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่างๆ

ทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ช่วยลดไขมันในเลือด

ฝรั่งเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักเพราะมีไฟเบอร์สูง

จึงช่วยทำให้อิ่มท้องได้นานแล้วยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นอีกด้วย

**************************************************************

อันดับที่ 4 กีวี

วิตามินซี 105 มิลลิกรัม/100 กรัม

กีวีผลไม้เนื้อสีเขียว รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีโพแทสเซียมและแร่ธาตุที่ช่วยลดความดันโลหิต

มีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 3 เท่า ช่วยรักษาภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงจึงไม่เป็นหวัดง่ายๆ

มีสารลูทีนและซีแซนทีนช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม และสารเซโรโทนินที่ช่วยให้นอนหลับสบายตลอดทั้งคืน

เพราะจะไปช่วยคลายเครียด ลดความวิตกกังวลต่างๆ แถมยังช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย

เพราะให้พลังงานเพียง 55 กิโลแคลอรี่ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ยิ่งควรรับประทานเพราะมีโฟเลตซึ่งดีต่อทารกในครรภ์มากๆ

*************************************************************

อันดับที่ 5 ลิ้นจี่

วิตามินซี 71.5 มิลลิกรัม/100 กรัม

ลิ้นจี่ อุดมไปด้วยวิตามินซีและกลูโคส สรรพคุณช่วยบำรุงหลอดเลือด

ป้องกันโรคกระดูกและฟัน แก้ไอเรื้อรัง แก้กระหายน้ำ แก้อาการคัดจมูก

ป้องกันไขมันอุดตัน โรคโลหิตจาง รักษาอาการท้องเดิน บำรุงระบบการย่อยอาหาร

ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร แถมยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งอีกด้วย

แค่ทานลิ้นจี่วันละ 3 ผล ก็ได้วิตามินซีเพียงพอร่างกายในหนึ่งวันแล้ว

************************************************************

อันดับที่ 6 มะละกอ 

วิตามินซี 62 มิลลิกรัม/100 กรัม

มะละกอสุก สามารถใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยแก้อาการท้องผูก

เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น รักษาโรคลักปิดลักเปิด

โรคเลือดออกตามไรฟัน มะละกอยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายชนิด

ซึ่งช่วยให้สุขภาพแข็งแรง

**********************************************************

อันดับที่ 7 ลูกพลับ 

วิตามินซี 61 มิลลิกรัม/100 กรัม

ลูกพลับเป็นผลไม้ที่ชาวญี่ปุ่นรับประทานเป็นประจำเพราะมีวิตามินซีสูง

ช่วยป้องกันหวัด เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงต้านทานต่อแบคทีเรียและไวรัส

ช่วยแก้อาการท้องเดิน ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง ทั้งยังมีสารเบต้าแคโรทีน

ช่วยบำรุงสุขภาพของดวงตา ป้องกันโรคต้อกระจก ตาฟาง

ลูกพลับเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยสูงจึงช่วยลดอาการท้องผูกได้

********************************************************

อันดับที่ 8 ส้มโอ

วิตามินซี 61 มิลลิกรัม/100 กรัม

ส้มโอนอกจากเป็นผลไม้แล้วยังมาปรุงเป็นยำรสชาติจี๊ดจ๊าดได้อีกด้วย

ส้มโอช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน แก้หวัด แก้ไอ ขับเสมหะ 

ลดอาการท้องอืด แน่นท้อง ท้องเฟ้อ และลดอาการจุกเสียด

******************************************************

อันดับที่ 9 สตรอว์เบอร์รี่

วิตามินซี 58 มิลลิกรัม/100 กรัม

ผลไม้สีแดงสดรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ช่วยบำรุงเหงือกและฟันให้แข็งแรง

ช่วยดับกลิ่นปากและยังทำให้ฟันขาวขึ้นได้อีกด้วย สตรอเบอรี่มีวิตามินซีและไฟโตนิวเทรียนท์

ซึ่งทำให้อนุมูลอิสระลดน้อยลง ป้องกันโรคมะเร็ง และโรคหัวใจได้อีกด้วย

********************************************************

อันดับที่ 10 ส้ม

วิตามินซี 53 มิลลิกรัม/100 กรัม



ส้มมีใยอาหารที่สูงจึงช่วยระบบขับถ่ายได้ดี วิตามินซีช่วยรักษาเลือดออกตามไรฟัน

ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายแข็งแรง ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย

ลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด ทั้งยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากมายทั้ง

เบต้าแคโรทีน ไลโคปีน วิตามินเอ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้