กรดอะมีโนในซีบัคธอร์น

2446 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กรดอะมีโนในซีบัคธอร์น

โปรตีนและกรดอะมิโน ในเมล็ดซีบัคธอร์น

มหาลัยแห่งชาติมองโกเลียได้ทำการวิจัยผลของซีบัคธอร์น
โดยการสกัดสารจากเมล็ดซีบัคธอร์นในสภาวะค่า pH ที่แตกต่างกันสองแบบที่ pH=1.5 และ 1 1.5
พบว่าเมล็ดซีบัคธอร์นประกอบไปด้วยโปรตีนและกรดอะมิโนที่จำเป็นและไม่จำเป็นมากมาย
เช่น ไลซีน (Lysine)  ฮิสทิดีน (Histidineอาร์จินีน (Arginine) ทรีโอนีน (Threonine)วาลีน (Valine)

เมไธโอนีน  (Methionine) ไอโซลิวซีน (Isoleucine)ลิวซีน (Leucine) ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine)

ซิสเทอีน (Cysteine) แอสพาราจีน (Asparagine) เซรีน (Serine) 

กลูตามีน (Glutamine)โพรีน (Proline)ไกลซีน (Glycine )อะลานีน (Alanine) ไทโรซีน (Tyrosine) 


รวมทั้งกรดไขมันไม่อิ่มตัวทั้งหมด เช่น กรดไลโนเลอิก กรดไลโนเลอิก และกรดโอเลอิก
โดยแสดงในตารางให้เห็นคุณสมบัติองค์ประกอบปริมาณกรดอะมิโนในเมล็ดของซีบัคธอร์นที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
นับว่าเป็นผลไม้ที่ทรงคุณค่า และเหมาะสำหรับนำไปเป็นวัตถุดิบแปรรูปในรูปแบบต่างๆเป็นต่อไป

กรดอะมิโน (Amino Acid) คือ ? 

กรดอะมิโน คือ หน่วยเล็ก ๆ ของ โปรตีน ถ้าไม่มีกรดอะมิโนก็จะไม่มีโปรตีน 
โดยกรดอะมิโนที่เรารู้จักคุ้นเคยกันจะมีอยู่ด้วยกันประมาณ 20 ชนิด 
ซึ่งเป็นกรดอะมิโนมาตรฐาน แต่ในความเป็นจริงแล้วกรดอะมิโนจะมีมากกว่านั้น โดยกรดอะมิโนจะแบ่งออกเป็นกรดอะมิโนจำเป็นและกรดอะมิโนไม่จำเป็น เมื่อเรารับประทานโปรตีนเข้าไป ร่างกายก็จะย่อยโปรตีนเหล่านั้นให้เป็นกรดอะมิโนก่อนที่จะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดแล้วนำไปใช้ประโยชน์ แต่ถ้าร่างกายได้รับกรดอะมิโนมากเกินไป ก็จะขับออกมาทางเหงื่อหรือปัสสาวะจนหมด


ประโยชน์ของกรดอะมิโน !

มีกรดอะมิโนเพียง 8 ชนิด เท่านั้นที่ถือว่าเป็นกรดอะมิโนจำเป็น 
เพราะร่างกายจะไม่สามารถขึ้นเองได้ ต้องได้รับจากการรับประทานอาหารต่าง ๆ รวมไปถึงอาหารเสริม 
และยังมีกรดอะมิโนจำเป็นตัวที่ 9 ที่มีชื่อว่าฮิสทิดีนซึ่งจัดเป็นกรดอะมิโนจำเป็นเฉพาะในเด็กและทารกเท่านั้น ส่วนกรดอะมิโนไม่จำเป็นนั้นร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้

กรดอะมิโนจำเป็น

1. ทริปโตเฟน (Tryptophan) ลดความเครียด บรรเทาอาการไมเกรน ช่วยส่งเสริมการนอนหลับอย่างเป็นธรรมชาติ
2. ทรีโอนีน (Threonine) ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยเผาผลาญไขมัน และมีส่วนสำคัญในการสร้างกรดอะมิโนอย่างไกลซีนและเซรีน
3. ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) เพิ่มความตื่นตัว เสริมความจำ บรรเทาอาการซึมเศร้า ลดความอยากอาหาร และช่วยเพิ่มความสนใจในเรื่องเพศ
4. เมไธโอนี (Methionine) เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลัง และช่วยในการย่อยสลายไขมัน
5. ลิวซีน (Leucine) ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มพลังให้กล้ามเนื้อ และช่วยให้เซลล์ประสาทแข็งแรงขึ้น
6. ไลซีน (Lysine) ช่วยเสริมสมาธิ ช่วยป้องกันโรคเริมและโรคกระดูกพรุน บรรเทาปัญหาด้านการสืบพันธุ์
7. วาลีน (Valine) ช่วยกระตุ้นสมรรถนะของสมองและช่วยการประสานกันของกล้ามเนื้อ
8. ไอโซลิวซีน (Isoleucine) ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท ช่วยพัฒนาการเรียนรู้

9. ฮิสทิดีน (Histidine) เป็นกรดอะมิโมจำเป็น สำหรับทารกและเด็กเท่านั้น*

กรดอะมิโนไม่จำเป็น

1. อะลานีน (Alanine) ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดอาการต่อมลูกหมากโต
2. อาร์จินีน (Arginine) ไวอากราจากธรรมชาติ กระตุ้นการหลังโกรทฮอร์โมน เพิ่มจำนวนอสุจิ เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายและลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี
3. แอสพาราจีน (Asparagine) กรดอะมิโนไม่จำเป็นซึ่งร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้
4. แอสพาร์ติก (Aspartic acid) ช่วยในการขับแอมโนเมียซึ่งเป็นสารอันตรายออกจากร่างกาย 
ช่วยปกป้องระบบประสาทส่วนกลาง และยังช่วยเพิ่มความทนทานต่อการเหนื่อยล้าได้ด้วย จึงเหมาะกับนักกีฬาเป็นอย่างมาก
5. ซิสเทอีน (Cysteine) ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และมีความจำเป็นสำหรับทารกและผู้สูงอายุ
6. เซรีน (Serine) ช่วยเผาผลาญไขมัน เพิ่มการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายกรดอะมิโน
7. กลูตามีน (Glutamine) เป็นส่วนหนึ่งของกลูต้าไธโอน มีส่วนช่วยให้ฉลาดขึ้น และช่วยเพิ่มระดับของโกรทฮอร์โมน
8. กลูตามิก (Glutamic acid) หน้าที่หลักคือเป็นเชื้อเพลิงให้แก่สมอง ช่วยจัดการกับแอมโมเนียส่วนเกิน
9. ไกลซีน (Glycine) ช่วยรักษาภาวะต่อมใต้สมองทำงานน้อย รักษาโรคกล้ามเนื้อฝ่อลีบ รักษาภาวะน้ำตาลต่ำ
10.โพรลีน (Proline) ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยปรับโครงสร้างผิว
11. ไทโรซีน (Tyrosine) ช่วยส่งเสริมการทำงานของต่อมหมวกไต ต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ และช่วยรักษาอาการซึมเศร้า

กรดอะมิโนเพิ่มเติม 3 ชนิด (ที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อกรดอะมิโนมาตรฐาน แต่ก็พบเห็นได้บ่อย ๆ)

1. ซิสทีน (Cystine) ช่วยเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างโปรตีนในร่างกาย
2. ทอรีน (Taurine) ช่วยส่งเสริมการมองเห็น ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม ช่วยให้หัวใจทำงานได้แข็งแรงขึ้น ช่วยรักษาโรควิตกกังวลและโรคลมชักได้
3. ออร์นิทีน (Ornithine) ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินเพื่อมาช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ นักเพาะกายจึงนิยมมาก

 

กรดอะมิโนในรูปของอาหารเสริม

กรดอะมิโนในรูปแบบอิสระ (Free-form) จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้เลย โดยมีจำหน่ายทั้งในสูตรรวมและแบบแยกเป็นชนิด ๆ ไป โดยกรดอะมิโนแต่ละชนิดมีประโยชน์แตกต่างกันออกไป ทั้งในแง่ของการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันไปจนถึงการลดความจำเป็นในการใช้ยา จะเป็นการดีมากถ้าหากคุณรับประทานกรดอะมิโนเสริมร่วมไปกับการรับประทานวิตามินหลัก ที่จะทำงานร่วมกันในกระบวนการเผาผลาญอาหาร อย่างเช่น

วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12

และถ้าหากว่าคุณจะเลือกรับประทานกรดอะมิโนแบบสูตรรวมหลายชนิด ก็ต้องมั่นใจด้วยว่าเป็นสูตรที่มีสัดส่วนสมบูรณ์ ดังนั้นควรอ่านฉลากก่อนซื้อจะดีที่สุด
    การสร้างโปรตีนของกรดอะมิโนจะสมบูรณ์ได้นั้นต้องประกอบไปด้วยกรดอะมิโนจำเป็นและกรดอะมิโนไม่จำเป็นอย่างสมดุล มีสัดส่วนที่เหมาะสมระหว่างกรดอะมิโนจำเป็นแต่ละชนิด เช่น

ไลซีนควรมีอัตราส่วนเป็น 2 : 1 กับ เมไธโอนีน และ 3 : 1 กับทริปโตเฟน เป็นต้น

(หากมีข้อสงสัยควรสอบถามเภสัชกรหรือนักโภชนาการที่เชื่อถือได้เลยครับ)

   

 

แหล่งอ้างอิง :

*หนังสือวิตามินไบเบิล (ดร.เอิร์ล มินเดลล์)

*Department of Biochemistry and Bioorganic Chemistry, Faculty of Biology, National University of
Mongolia, Ulaanbaatar 21 0646, Mongolia

*Laboratory of Natural Product Chemistry, Institute of Chemistry and Chemical Technology,
Mongolian Academy of Sciences, Ulaanbaatar, Mongolia

*Mongolian Journal of Biological Sciences 2003 Vol. I(]): 85-88

เรียบเรียงโดย :  แอดมินเว็บไซต์ www.zojunglobal.com

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้